ครีมหน้าใส ครีมแก้ฝ้า ครีมหน้าขาว ครีมหน้าเด้ง และ นานาสาระ

Bisous Love blossom Brightening  powder pact.( IVORY) ราคา 200 กว่าบาท ซื้อมาจากฮ่องกง  เพื่อนหิ้วมาจาก เกาหลีอีกที เอามาขายต่อให้  ราคาที่ไทย แพงมากก    แป้งไม่ผสมรองพื้นนะ  ปกปิด ไม่เนียน  สำหรับเราทาแล้ววอกเลย  แต่เพราะ ตลับมันสวยน่ารัก เลยเก็บไว้ ทาอยู่บ้าน หน้าลอยอยู่แต่ในบ้าน  สรุปที่ซื้อนี่ เพราะ แพคเกจอย่างเดียวเลย  จริงๆๆ     เราผิวสองสีไง  แต่ไม่ถึงกับผิวดำ คือ แป้งบ้างรุ่นเราใช้เบอร์ 01 นี่โอเคเลยนะ หรือตัว ไอโวรี่ ของคิวเพรสก็จ้าบกับผิวหน้าเรา  เอหรือว่า เป็นเพราะตัวนี้มันไม่รองพื้น ความปกปิดเลยไม่มี แต่ ตัวนี้ทาแล้วให้ผิวสว่างๆนะ   มันเลยดู วอกๆๆ     แต่ก็เถอะ สำหรับใครที่ผิวหน้าไม่มีปัญหา จุดด่างดำ  แป้งตัวก็ใช้ได้ดีนะ   แต่ถ้าให้เทียบ  แป้ง Etude น่าจะแจ่มกว่า  แบรนด์นี้  

The seam healing tea garden  Tea tree oil Cleansing Foam ราคา 200+  ก็ตามชื่อเนาะ เวลาเป็นสิว ก็ต้องสรรหา โฟมล้างหน้ากันไป  เนื้อโฟมสีขาว กลิ่นหอมเย็นๆ  โฟมไม่เยอะ เอ เหมือนแทบไม่มีฟอง เท่าที่ใช้ จนนะหมดหลอด  หลอดใหญ่นะคะ  ไม่หาย สิวแบบเดิม  แต่สิวกลับหายเพราะใช้ คลินด้า น้ำ เจล และ ลาโรช ดูโอ พลัส สรุป ไม่ต้องใช้โฟมล้างหน้าแก้สิว เลย  ไม่จำเป็น  แต่ด้วยความงก ซื้อมาแล้วใช้ไป   แต่ถ้าชอบความฟินความหอมเย็นสดชื่น ก็ใช้ได้นะ

Clouda smooth press powder spf 20 แป้งตัวนี้ ซื้อมาจาก แคตาล้อต 7/11  ราคา น่าจะ 200 อัพ นะ  แล้วแต่โปร  เป็นเบอร์ 01  ก็ออกขาวๆหน่อย แต่เราผิวสองสีนะ ไม่ใช่คนผิวขาว  แต่ ผิวหน้าเราขาวกว่าคอไง  อิๆๆ  ก็ทาออกมาจะออก เนียนๆ ไม่วอก  คุมมัน ไม่มาก ไม่น้อย  คือต้องมีเติมแป้ง ซัปๆความมันกันบ้าง  เพราะไม่ใช่แป้งฝุ่นเนาะ  ตอนแรกก็หาๆดู ว่าจะซื้อ ยี่ห้ออื่นดีไหม   แต่งบน้อยไง เลยอยากได้ ของใช้ดีแต่ราคาถูก  คือ เราก็เคยซื่อราคาแพงๆมาบ้างนะ สำหรับแป้งทาหน้าเนี่ย  แต่บางทีก็ไม่ได้ดั่งใจเหมือนที่คนรีวิว ก็มีให้คนอื่นใช้ไป  แต่ก็แอบเสียดายเงินนะเนี่ย เอาเป็นว่า แป้งยี่ห้อนี้ก็ใช้ดีนะ  สำหรับเรา ว่า ปกปิกเนียนดีกว่า แป้ง eglips  หรือ ดีกว่า แป้ง zendori ซะอีก  สีแป้งทาแล้วกลืนไปกับสีผิวดีค่ะ ไม่หน้าลอย  ราคาไม่แพง  ด้วย  และที่สำคัญ ไม่แสบ ไม่คัน ไม่แพ้   เพราะ ตอนที่เราสั่งซื้อ จาก 7/11  ก็มีความกลัวว่าจะต้องแพ้แน่ๆๆ  เพราะไม่เคยรู้จัก แบรนด์นี้เลย  อ่านแค่รีววิว ก็กล้าซื้อเลย  เหรอ  เสี่ยงนะเนี่ย  แต่ก็ซื่อไปแล้ว ใช้ไปแล้ว  รอดค่ะ  อ้อ ส่วนตัวเรา ใช้ แปรงปัดแป้ง นะคะ ไม่ได้ใช้ฟองน้ำ 

Eglips Blur powder pact  Made in Korea   เบอร์ 21 แป้งตัวนี้ เห็นจาก รีวิว คุณ โมเม อย่างเดียวเลยยย 555  ตามหาซื้อมา  ที่ฮ่องกง ในราคา 160 บาท ไทย   30 hkd ตอนแรกใช้ตลับสีดำ เบอร์ 23 อะจ้ากทาแล้วมึดไป 555   นึกว่าผิวหน้าไปอาบแดดมา  แต่เบลอรูขุมขนได้ดีตามคำเคลม ของแบร์น นะ  เลยไปซื้อตัว ลาเวนเด้อมาใช้  ฮิๆๆซื้อเพราะตลับสีม่วง   แต่ไม่รู้ว่ามันผสมลาเวนเดอ มาด้วยไหม  แต่ไม่สน  สนแค่ตลับน่ารัก แค่นั้นเอง  ตัวนี้สีม่วงเบอร์ 21  สีก็ออกจะขาวๆหน่อย ถ้าลงลองพื้นสีสว่างด้วยแล้ว หน้าลอยเลยนะ   ขนาด แป้งตัวนี้ไม่ได้ผสมรองพื้นนะ  เวลาทายัง ขาวนวลสว่างเลย   ส่วนตัวเราใช้แปรงปัดแป้งบางๆแล้วทาค่ะไม่ใช้พัฟ  เพราะกลัวหน้าลอยย   แต่แป้งอำพรางรูขุมขนได้ดีเลยนะ เนื้อแป้งเบายางไม่หนักหน้าค่ะ  ไม่มีกลิ่นฉุนให้คันจมูก ยุบยิบ  แต่ไม่คุมมันนะคะ สำหรับเรา ซื้อต่อไหม ก็ซื้อต่อนะคะเพราะราคาไม่แพง  อีกอย่างเราไม่ชอบแป้งผสมรองพื้น ด้วย  เลยคิดว่าแป้งตัวนี้แต่งลุคบางๆๆ แบบดูไม่แต่ง  ก็เอาอยู่ค่ะ  

ศรีจันทร์ ราคา ???  ไม่แน่ใจ  เราซื้อ แป้งนี้มาจากบนสายการบิน  เอมมิเรท  เพราะ มันมาเป็นเซ็ท  กล่อง กระดาษตู้กระจก 3 ชั้น และมีแป้งมา 3 ตลับ  อยู่ในแต่ละชั้น ในราคา 8 ดอลล่า  เห็นมันสวยดี  แค่นั้น  แต่ไม่เคยรู้จัก แป้งแบรนด์นี้มาก่อนเลย เฮ้อ  ซื้อเพราความถูก และ แพคเกจสวย แค่นั้นจริงๆๆๆ     แตเราลืมถ่ายรูป ทั้งเซ็ทมาให้ดู  พอดีต้องย้ายบ้านเลยทิ้งไป  ตลับ  1และ 2  เป็นฝาสีฟ้าๆ  เป็นมาร์ก เหมือนแป้งทานาคา  สำหรับ ผิวผสม หนึ่งตลับ  และ สำหรับผิวมัน หนึ่งตลับ   ส่วนตัวลองใช้มาร์กแล้ว แพ้คันผิวหน้า เลยทิ้งไปเลย ส่วนแป้งลองใช้ครั้งแรกแล้วติดใจมากกก แป้งโปรงแสง เนื้อออก เหลืองๆนวลๆ  ตอนแรกนึกว่าจะขาววอกเหลืองแบบแป้งพม่า  แต่ว่าโอ้ยยยย มันดีมากกก  เนื้อแป้งเบาบาง ไม่หนักหน้า คุมมันได้ระดับนึง  แต่หน้าไบร์ส เนียนสวยดีค่ะ  ซื้อต่อ อยู่แล้ว  เพราะชอบๆๆ   คือ ซื้อเฉพาะ แป้งฝุ่นโปรงแสงนะ  555  ตัวมาร์ก ไม่ไหว ผื่นขึ้นหน้าแสบคัน ค่ะ สำหรับเรานะ  แต่คนอื่นๆใช้มาร์กแล้วอาจจะดีเว่อร์ก็ได้ สรุปใครใช้ได้ดีก็ดีใจไป  ใครใช้แล้วแพ้คงต้องขอบาย

ภาพยืมมาจากเพจ อินนิสฟรี Innisfree perfect UV Protection cream for oily skin spf50 ตามหาครีมกันแดด กันไป ยี่ห้อไหนน่าตำ น่าลอง  มาเจอ ตัวนี้ แบรนด์นี่ก็มีตัวดีๆ น่าใช้เยอะ  และเราก็เคยลองใช้มาแล้วหลายตัว กับแบรนด์นี้และที่สำคัญเราไม่แพ้ด้วย  เลย จัด ครีมกันแดด ตัวนี้มาล งใช้ดู คือ งกนิดๆๆ เห็นราคาไม่แพงมาก และได้ถึง 50 ml.  และ สำหรับผิวมันด้วย  มันใช่อ่ะ เนื้อครีมขาวข้น  ไม่มีกลิ่นนะ  เอ หรือจมูกเราด้าน555   ทาลงบนหน้าก็ไม่วอกนะ ก็โอเค ใช้ได้เลย  ไม่เหนียวจนรู้สึก หนืบหนับบนหน้า   คือ ก็ไม่มีไรมากนะ ก็ถือว่าใช้ดีเลยแหละ ทาแป้งสีก็ไม่ดรอปด้วย  ซื้อต่อไหม  ก็ซื้อต่อได้นะ สำหรับเรา  แต่ยังไงแล้ว ทั้งนี้ทั้นนั้น หรือทั้งไหน เราว่าควรไปลองสี ลองเนื้อครีมที่เคาเตอร์เลยดีกว่านะคะ เพราะความชอบในเนื้อครีมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  แต่ กันแดดอินนิสฟรีตัวนี้ก็เป็นแบรนด์เกาหลีที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันค่ะ 

ยืมภาพมาจากกูเกิล (เนื่องจากมือถือหาย ภาพจริงที่เคยถ่ายเก็บไว้รีวิวเลยหายไปด้วย) Curel Set Sebum care  ราคา ซื้อมาจากฮ่องกง 500 บาท  มาเจอที่ไทย อาจมีถูกกว่า ตามโปร  เป็นเซ็ททดลองใช้  น่าจะประมาณ 1-2 เดือน  สำหรับคนเป็นสิว ก็คุ้มราคาน่าลองใช้ เพราะถ้าใช้ไม่เห็นผลก็ไม่เจ็บตัวมากนัก  ฮิๆๆ  เลยจัดมา ปล  ถ้าซื้อเป็นขวดแยกๆ ราคาสูงเอาการ  ปัญหาผิวหน้า ณ ตอนนั้น สิวเห่อเต็มหน้า  น่าจะแพ้ครีม ตามเน็ต ที่ซื้อมาลองใช้ ซื้อมาก็ต้องมีความหวังว่าสิวจะหายไปจากหน้าเนาะ  1. Curel โฟมล้างหน้า กดออกมาเป็นฟองโฟม  สีขาว  ไม่มีกลิ่น  อ่อนโยนต่อผิว  ชอบมากกกค่ะ  2.Lotion โลชั่น น้ำใสๆ ตัวนี้ก็ดี  ชอบค่ะ ให้ความชุ่มชื้นต่อผิวดีมากกกก 3.Curel crem gel  ตัวนี้เป็นเนื้อครีมบางๆสีขาวใสๆ ไม่ขุ่น  ไม่มีสี กลิ่น  เนื่อเนียนนุ่ม เป็นมอยเจอไรเซอร์ ให้ความชุ่มชื่น ดีเริศ จากที่ใช้ จนหมด  ปลื้ม ค่ะ ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คัน  ทำให้ผิว อุ้มน้ำได้ดี  แต่ๆๆๆ ถามว่า สิวหายไหม  ถ้าใช้ เซ็ทนี้  ส่วนตัว  ของเราไม่หาย ค่ะ    คิดว่าเซ็ทนี้นะจะเหมาะกับคนที่สิวไม่เยอะมาก  แค่นิดๆหน่อยๆ เม็ดสองเม็ด หรือ สิวประจำเดือนอะ

ภาพยืมมาจากกูเกิล สิวผลุบๆโผล่ๆเนาะ เวลาที่ต้องเปลี่ยนครีมบำรุงผิวหน้า ปล่อยๆๆ คือ แบบว่า บางที ของมาใหม่ๆมันก็อยากลองไง  เป็นผู้หญิง อย่าหยุดสวย  มันติดที่ประโยคนี้แหละ เฮ้อ    คือเห็นตาม เพจ เกาหลีบอก แบรนด์นี้อย่างเลิศกำลังฮิต   จะช้าอยู่ไย ล่ะ กูเกิลหาร้านขายอย่างไว  ได้มาในวันรุ่งขึ้น เสียไป 600 บาท  อ่านๆๆ รายละเอียด  เออ นี่แหละที่เราต้องการ ณ ตอนนี้   คือช่วยผลัดเซลผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เพราะเป็น BHA  ไม่ใช่  AHA (คือ แรงไป)  ความหวังว่าสิวหายหน้าใสกำลังจะมาเยือน เป็นเนื้อเซรั่มเหนียวนิดๆ เนื้อใส ไม่มีกลิ่น  ใช้ทาบนหน้า  เช้าเย็น  ทาไปๆๆๆๆ ใยใจมีความหวัง   ไม่แพ้ ไม่แสบ ไม่คัน ชิวๆๆ  ทาไปๆๆๆๆ ไม่เห็นผล  สิวไม่หาย  รอยดำ ก็ไม่หาย  เพลีย หยุดใช้ หลังจากทนใช้ไปเกือบเดือน  จ้องหน้าตัวเองในกระจกทุกวัน ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง  บ้ายๆๆ   ไม่ซื้อต่อ แล้ว ตัวนี้ 555  แต่ๆๆๆ  เห็นในรีวิวเพจเกาหลีบอกว่า ตัวล้างหน้า ดีมากกก  เดี๋ยวนะ  รอแพล้บบบ  จะตามไปซื้อมาลอง      คือ  เราจะไม่เหมารวมนะว่า cosrx ใช้ไม่ดี  บางที ผลิตภัณฑ์ 10 ตัว  อาจจะดีกับผิวของเราแค่ 2 ใน 10 ก็ได้หรือมากกว่านั้

ภาพจากกูเกิล ที่จริงแล้า มาร์ก ของ การ์นิเย่ ออกมาหลาย ส่วนผสม  วันนี้เราได้มีโอกาส ลองใช้ตัวนี้ดู เพราะว่า มาเที่ยวทะเล รู้สึกผิวโดนแดด ทำใหผิวแห้งเหี่ยววว  เลยแวะเข้า ห้าง จัดมาลองซักแผ่น  ราคา ประมาณ 35-70 บาท  อันนี้แล้วแต่โปร แต่ละที่ มาก์ส ตัวนี้ จะทำให้ผิวชุ่มชื่น  ตามชื่อ  เพราะมีส่วนผสม ไฮยาลูโรนิค และกรีนที ช่วยดีท้อกและผ่อนคลายผิวหน้า แกะซองออกมา มีมึนงง ว่าจะต้องใช้ด้านไหน แปะลงหน้า555  แต่ก็ดูรูปด้านหลังทำตาม  ดึงแผ่นมาร์ส ออกมา ชุ่มเซรั่มมากๆๆๆ เซรั่มเหนียว หยดติ๊งๆๆ  แปะไปคะ 15-20 นาที ดึงมาร์ก ออกมา อืม  ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไรเปลี่ยนแปลงมากก ความรู้สึกก็แค่หน้าเปียกชุ่มๆ เหมือนๆกับมาร์กให้ความชุ่มชื่น ของ แบรนด์อื่นๆ  ส่วนตัวลองใช้ครั้งเดียว ยังไม่ปลื้มเท่าไหร่   เดี๋ยวคงต้องลอง การ์นิเย่ มาร์ก สีอื่นๆต่อไป  ว่าตัวไหนจะทำให้เรา หวนกลับไปซื้อซ้ำได้บ้าง

3 WC CLINIC COLLAGEN LUXURY GOLD PEEL OFF MASK PACK 24K G GOLD MASK PREMIUM SKINCARE ALL IN ONE CARE FOR PORE ,ELASTICITY AND SKIN TONE BY GOLD INGREDEINTS. ขนาด 100 กรัม  ราคา 200 บาท  เกาหลี ตามเดิม ตั้งใจไปซื้อแค่โฟมล้างหน้า  ทางร้านบอกตัวนี้ best seller. อะๆๆ ราคาไม่แรง  จัดมา   แบบงงงงงงงง สรุป ดีมากกกก  มาส์กแห้งเร็ว แสบคันมันพะยาค่ะ  ตอนดึงนี่ ถ้าดึงแบบ ย้อนศร  ล่างขึ้นบน มีน้ำตาเล็ด   ขนติดพรึบๆๆๆ   แต่ได้หน้ากระจ่างใสๆ  คือดีงาม มีซื้อต่อแน่นอนนน 

รูปยืมมาจากกูเกิล ราคา จำไมได้นะ  น่าจะราวๆ 250 บาท เพราะตอนนั้นซื้อตอนลดราคาที่ร้านฮ่องกง  ขนาด 30 ml เนื้อครีมขาวแต่ไม่ข้นจนหนึบหนับ คือเปิดตลับออกมา คือน่าใช้นะ  เพราะมีแต่คนรีวิว โดยเฉพาะดารา ไอ้เราก็บ้าตามหามาใช้อย่างไว ครั้งแรกๆก็รู้สึกหน้าใสๆดี นิดๆ  แต่ก็ไม่ได้ปลื้มอะไรมากมายแบบว้าววว  กลิ่นไม่แรง หอมอ่อนๆ    ก็ใช้ๆไป  ทาเช้าเย็น เพราะเห็นว่า มี มอยเจอร์ไรเซอร์ คงทำใไ้ผิวชุ่มน้ำบ้างแหละ   แต่พอทาไปได้ 3 วันสิวขึ้น  แล้วก็ขึ้นจน  หน้าเละ  หยุดใช้  และเอาไปทาแขนขาแทน     สรุป  แพ้ครีมจร้าาาาา  ต้องรักษาสิวเอง ไป 4 เดือน คหสต  เราว่า ตัวนนี้ยังสู้ ตัว ครีม  fall in love ไม่ได้นะ   ตัวนี้ใช้แล้วตื่นมารู้สึกได้เลยว่าหน้านุ่ม เบลอ เนียนๆ  ปล  คือคนอื่นๆบอกใช้ดีนะ  แต่สำหรับเราแพ้  ดังนั้น การใช้ครีมบำรุงผิวต่างๆ ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจเองนะคะ

เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดก็คงไม่แพ้ต้องเพิ่ง ครีมซอง เพราะไม่ต้องพกเยอะให้เปลืองพื้นที่  เพราะถ้าไปเที่ยวไม่กี่วันนี่จัดเซ็ทใหญ่ ไปนี่คงหนักกระเป๋าเอาการ ตัวนี้เราคิดว่าสาวๆทุกคนคงได้ลองใช้กันแล้ว  ใช้ดียังไงก็คงต้องขึ้นกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน ไปล่ะ สำหรับเรา ตัวนนี้เอามาทาหน้าไม่ค่อยเวิคส์กับเราเท่าไหร่  ไม่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวเลย  เหมือนจะแห้งเร็ว    แต่ถ้าใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าคงได้อยู่  เพราะ เป็นเนื้อครีมอมชมพูนิดๆๆ ทาแล้วก็ หน้าวอกนิดๆ    เราลองใช้กับผิวหน้าแล้วทำให้หน้าเราแห้ง(ขนาดเราผิวผสม)   บางครั้งรู้สึกเหมือนแพ้  เราเลยเอามาทาที่คอแทน  อย่างที่บอก ทาที่คอแล้วมันขาววอกดี  พอทาแป้งพับลงไป เลยดูเนียนโดยไม่ต้องลงรองพื้นที่คอ  สรุป ซื้อใช้ต่อไหม  ก็อาจจะนะ  แต่ซื้อแบบซอง  ไม่ซื้อแบบหลอดใหญ่  เพราะเอามาทาคอ  ก็ได้อยู่  ก็หวังๆๆตามคำเคลมนั่นแหละ  คอจะได้ขาวอมชมพู  และมี แอนตี้เอจจิ้งด้วย  spf ด้วย  เผื่อคอจะได้ขาวนวลไร้ริ้วรอย